วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

๑๐. Golden Monkey

        หลังจากเราเจาะนครวัดออกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยหิวกระหายแล้ว  ในใจท้าวไซยคำเลาะ ตระหวัดไปถึงรอยยิ้มและการร้องเชิญชวนของสาวๆ หน้าปราสาทนครวัด สาวแต่งชุดดำ หมวกแดง  ครั้นเดินออกมาถึงด้านหน้าปราสาทนครวัด  ร้านจะอยู่ซ้ายมือ แต่ถ้าเข้าไปร้านจะอยู่ขวามือ ชื่อ ร้านลิงทอง  หรือ Golden Monkey           

            การสร้างร้านนี้ไอเดียดีมาก เพราะใช้รถยนต์มาดัดแปลงเป็นร้าน เปิดฝาข้างมีบันไดเดินขึ้นไป ๓ ขั้นก็ถึง  ร้านค้าโอ่อ่าสวยงามจัดแบบหรูหราดูดีตามสภาพ  มีโต๊ะนั่งทาสีส้มสดใส หลายโต๊ะ ตอนเราเข้าไปนั่งมีแขกนั่งอยู่แล้วโต๊ะหนึ่ง  เราก็เข้าไปแจม  คณะสาวๆ หนุ่มๆ ก็เร่เข้ามาต้อนรับทันที 

      ท้าวไซยสังเกตดูลีลาการเปิดการขายน้ำของเธอแบบมืออาชีพ  อันดับแรก คือการพูดทักทายพร้อมรอยยิ้ม พวกเธอจะถลาเข้ามาพูดคุยทักทายเป็นภาษาไทยว่า สวัสดีค้า  อาจจะโดยประสบการณ์เพราะนักท่องเที่ยวมามากมาย คงสังเกตุความแตกต่างออกว่าเป็นชนชาติใด  
     มีพนักงานเสริฟผู้ชายแต่ร้านนี้ปล่อยสาวๆ เข้ามาดูแล คงเห็นท้าวโซคท้าวไซยหน้าตาดี  คนที่เข้ามาแนะนำสินค้าชื่อว่า  เพชร โสรยา คิ้วโก่งตาคมบาดใจให้หัวใจหนุ่มเหลือน้อยแบบท้าวไซยหวิวหวั่นสั่นไหวรอนๆ หลังจากเอารายการมาให้ดูแล้ว เธอแนะนำว่า น้ำมะม่วงของเธออร่อยมาก  ต่างก็ให้รายการเธอไปให้จัดการให้ฝ่ายผลิตปรุงน้ำปั่นตามรายการที่บนรถ  ระหว่างรอก็หันหน้าไปดูนักท่องเที่ยวที่เดินไปมาขวักไขว่หลายชนชาติเพลิดเพลินดี  ถ้าคิดแบบเล่นๆ  มาไม่ศึกษาค้นคว้าก็มาดูก้อนหิน  ถ้าดูแบบเจาะลึกเหมือนคณะท้าวไซยก็เป็นการเดินทางที่ได้ความรู้มากมายหลายศาสตร์ตามความถนัดสนใจแต่ละคน
       สักครู่หนึ่งสาวขะแมร์ เพชร โสรยา ตาคมบาดใจผิวสีแทนกำลังงามก็เอามาส่ง  คราวนี้ก็ใช้ภาษาอังกฤษสัมมนากัน  ท้าวไซยก็ภาษาอังกฤษมั่วซั่วไปมา  สนุกดี
          สาวเพชร โสรยา ตาคมพูดภาษาอังกฤษได้ดี  รับลูกค้าแบบบริการด้วยใจ ฝรั่งคงใช้คำว่า Mind Services  พูดคุยกันสนุกสนานดี  
       คนสวยในภาษาเขมร ใช้คำว่า ละออจะนับ  หรือสะอาด  ท้าวโซคก็ซดกาแฟเอคเพรสโซ่  ผู้จัดการต้อยก็ดูดน้ำมะม่วง ดร.นิดก็สั่งน้ำมะนาว  ท้าวไซยก็น้ำมะพร้าว แต่ทุกอย่างในร้านนี้น่าดื่ม น่าทานมาก ยิ่งร้อนๆ แบบนี้ ทานอะไรก็แซ้บบบ.... ละเบ๋อ
      สาวขะแมร์ละออจะนับร้านนี้จะยืนเข้าแถวเรียกแขกยกมือไหว้ตามวัฒนธรรมของเขมร ปากก็ร้องเชิญชวนนักท่องเที่ยวไปตามแต่ละชนชาติ  ญี่ปุ่นก็ร้องโอไฮ่โย  จีนก็หนีห่าว  เวียตนามก็ซินจ่าว  ฝรั่งเศส บ๋องชัวร์  ถามชื่อสาวเสริฟว่าชื่อ สุภา คนนี้ไม่ค่อยเข้าใจภาษาอังกฤษ  อีกคนชื่อ สะไลเลิศ มาทำงานที่นี่ได้ ๗ วัน  
          ส่วนสาวเพชรโสรยาของท้าวไซยบอกว่ามาทำงานที่นี่ได้ ๑ ปีแล้วมีหน้าที่บริการลูกค้า  บอกไปว่าท้าวโซคมีร้านอยู่ยังขาดผู้จัดการอยากพาไปอยู่เมืองไทยด้วย โอเคไหม  เธอหัวเราะอายม้วนต้วน  บอกว่า ข้อยบ่ฮู้  

       เนื่องด้วยภาษาอังกฤษท้าวไซยกระท่อนกระแท่นมาก  เลยต้องให้ ดร.นิดเข้าไปสอบถาม น้องเพชรคนสวยของเรา (อิอิ) บอกว่าเธอเป็นผู้ช่วยหัวหน้าร้านนะ ไม่ธรรมดา
        หลังจากพูดคุย ถ่ายหนังเอาไว้มาโปรโมทการท่องเที่ยวของเสียมเรียบให้แล้ว  ก็ได้เวลาพอสมควรในการเดินทางไปชมปราสาทอื่นต่อไป
        ก่อนออกเดินทางก็ไปร่ำลาทักทายสาวขะแมร์ทั้งหลาย ด้วยความอาลัยอาวรณ์(อ้วกกกก....) โบกมือบ้ายบายกัน คราวหน้ามีโอกาสจะมาใหม่นะจ๊ะ  ตะเอง
        คราวนี้ ทำหัวใจหล่นหายที่เสียมเรียบตรงหน้าปราสาทนครวัด  ฝากไว้ก่อนเด้อสาวเพชร โสรยา เด้อ...คราวหน้าจะมาเอาคืน ละเบ๋อ....

ระหว่างเดินทางไปปราสาทพนมบาเค็ง 
 ให้คร่ำครวญคิดถึงสาวกัมพุช 
 เพชร  โสรยา  เป็นเพลงดังๆๆ

ละอ้อ  ละออ  ละออ จะนับๆๆ  
เห็นเจ้าปุ๊บปั๊บ  หัวใจท้าวไซยหล่นหาย  
จำพรากโสรยา คิดถึงกานดาอยู่ไม่วาย  
ช่างแสนเสียดาย  ไม่คลายคิดถึงน้องนาง.....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น